วันพุธที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2557

บันทึกของตากล้อง #1 : ผมไม่ชอบแมว

สวัสดีครับผมตากล้องเองครับ
หน้าที่หลักของผมทุกวันนี้คืออัพโหลดรูปแมวตัวนึงลงอินสตาแกรมและคอยอัพเดตความเคลื่อนไหวต่างๆผ่านทางเพจเฟสบุค ก็ทำมาสักพักใหญ่ๆแล้วล่ะครับจากงานอดิเรกที่ทำเฉพาะตอนว่างๆ ทุกวันนี้เลยกลายเป็นงานหลักงานนึงที่ชีวิตขาดไม่ได้ไปซะแล้ว

แต่ถึงกระนั้น ผมก็ยังไม่เคยแนะนำให้รู้จักกับเจ้าของเพจเฟสบุค"เค้าเรียกผมว่าแมว"
ตัวจริงอย่างเป็นทางการสักทีเลย และสำหรับในตอนนี้ถ้าทุกท่านพอมีเวลา
และอยากทำความรู้จักกับผู้ที่ได้รับฉายานามว่า "เจ้าชายเม็ดลำไย" (◕‿◕)
โปรดติดตามเรื่องราวต่อจากนี้ เป็นเรื่องราวของแมวธรรมดาๆตัวนึง
ที่เข้ามาเปลี่ยนชีวิตที่แสนธรรมดาของผม
ให้มีความหมายไปตลอดกาล...




ย้อนกลับไปเมื่อประมาณหกปีกว่าๆก่อนหน้านู้นนน ส่วนตัวผมไม่เคยเลี้ยงสัตว์แบบจริงจังมาก่อน โดยเฉพาะกับแมวนี้ผมค่อนข้างที่จะกลัวเอามากๆ ในความคิดของผมตอนนั้น แมวเนี่ยน่าจะเป็นสัตว์ที่ลึกลับ มีความคิดสลับซับซ้อน เหมือนเค้าจะล่วงรู้ความคิดเราได้ตลอดเวลา โดยเฉพาะตอนที่จ้องตากับแมว นับว่าเป็นช่วงเดดแอร์ที่ผมกดดันมากที่สุด...





 

จนกระทั่งวันนึง วันที่เพื่อนผมมันมาเที่ยวหา เพื่อนคนนี้เป็นคนที่รักแมวมากและแน่นอนวันนั้นมันพกลูกแมวตัวใหม่มาอวดผมด้วย(นี้แมวหรือยาดมกันล่ะเนี่ย -..-)  สำหรับผมเฉยๆมาก
แต่ก็ยอมรับนะว่าน่ารักดี อาจจะเพราะด้วยความที่เป็นลูกแมวไง ตัวเล็กๆ หัวโต ทำตาบ๋องแบ๋วใส่สำหรับผมก็เฉยๆไม่ได้ถึงกับพิศวาสอะไรมากมายนัก แต่รูมเมทของผมนี้สิ กระดี๊กระด๊ามากกก (ตอนนั้นอาศัยอยู่กับรูมเมทฮะ มีรูมเมทเป็นของตัวเอง) เค้าร้องลั่นห้อง"จะเอามั้ง จะเลี้ยงแมว ต่อจากนี้เป็นต้นไปห้องเราจะมีแมววววว!!" ผมนึกในใจ นั้นไงว่าแล้วเชียว...

สิ้นเสียงปิดประตูของเพื่อนผม มันกลับไปแล้วพร้อมกับลูกแมวของมัน...

แต่ดูเหมือนความต้องการและความมุ่งมั่นที่จะเลี้ยงแมวของรูมเมทผม
ยังไม่จากไปพร้อมกับเพื่อนเลย...

ภาระกิจที่ผมได้รับมอบหมายใกล้จะถึงกำหนดเดดไลน์แล้ว ปฏิบัติการค้นหาลูกแมว
ของผมช่างมีเวลาน้อยนิดไม่สอดรับกับความต้องการของใครบางคนเอาเสียเลย เริ่มจากการออกไปตามหาลูกแมวในวัดบริเวณใกล้ๆแถวนั้นก่อน จากนั้นก็ตามหลืบ ตามตรอกซอกซอยในที่ต่างๆ ณ ช่วงเวลานั้นก็ยังไม่ค้นพบลูกแมวให้เห็นแต่อย่างใด


ผมจึงกลับมาห้องด้วยความรู้สึกที่เฟ้งฟ้างและหว่าเว้ ในตอนนั้นผมต้องการที่จะต่อรองเวลาและขอเจรจาหาวิธีในการให้ได้มาซึ่งลูกแมวกับรูมเมทอีกครั้ง  แต่ทันใดนั้นเอง ผมเกิดฉุกคิดขึ้นมาได้ว่าโลกเราในยุคนี้มันคือยุคดิจิตอลนี้หว่า! ผมจึงเดินไปเปิดคอมพิวเตอร์และเสิร์ช อินเตอร์เน็ตหาลูกแมวในทันใด

ในตอนนั้นผมเองยอมรับว่าไม่สนับสนุนความคิดที่จะซื้อแมวมาเลี้ยงเด็ดขาด ต่อให้น่า
รักขนาดไหนก็ตามเหอะ เสิร์ชไปเสิร์ชมากลับกลายเป็นว่า ผมได้ทำความรู้จักกับแมวพันธุ์ต่างๆไปด้วย

..อ่อ เปอร์เซียมันหน้าตาแบบนี้นี่เอง
..อ่าว ทำไมพันธุ์นี้ถึงไม่มีหูกันล่ะ? 

..เฮ่ย ลายแบบนี้มันแมวหรือเสือกันแน่ฟร๊ะ!?

แต่คุณพระ แมวแต่ล่ะตัวนี้ราคาหลักพันถึงหลักหมื่นกันเลยทีเดียว ผมจึงหันไปกระซิบ
กับรูมเมทว่า

"เราไม่เคยเลี้ยงแมวมาก่อน เอาแมวปกติธรรมดาไหม นี่ๆแล้วเค้าก็ได้ยินมานะว่า แมวไทยๆนี้แข็งแรงเลี้ยงง่ายด้วยนะ ฟรีอีกด้วย แถมเสียก็ซ่อมได้อีกต่างหาก (อันนี้มั่ว)"

ก็เสิร์ชหาลูกแมวอยู่แบบนั้นหลายวันอ่ะครับ ยืดเวลาไปเรื่อยๆ...

เผื่อรูมเมทคิดอยากจะเปลี่ยนใจไม่อยากเลี้ยงแล้วอะไรแบบนี้(แต่ป่าวเล๊ย!!!) จนกระทั้งผมไปค้นพบกระทู้นึงเค้าโพสไว้ว่าต้องการหาบ้านให้ลูกแมวจ้า อะไรทำนองนี้ ผมก็คลิกเข้าไปดู เห็นลูกแมวน้อยประกาศหาบ้าน 3ตัว คือที่บ้านเค้าเลี้ยงแมวหลายตัว เลี้ยงแบบค่อนข้างปล่อยอิสระ แล้วมีแมวเปอร์เซียตัวนึงของเค้าเองนั้นแหละ ได้ไปท้องกับแมวจรจัดแถวระแวกนั้นซึ่งเค้าก็คงเลี้ยงไม่ไหว จึงมาประกาศตามหาบ้านให้แมว

ตัวแรก สีส้ม น่ารักเชียว (เริ่มมองแมวน่ารักขึ้นมานิด)
ตัวที่สอง สีเทาขาว น่ารักกว่าตัวแรกอีก (แต่เค้าบอกว่ามีคนจองไปแล้ว)
ตัวสุดท้ายตัวที่สาม สีขาว-ดำ ลายวัว ขี้เหล่สุดๆ ผอมเหมือนแมวเป็นโรค





ผมหยิบโทรศัพท์ ต่อสายไปทันทีเพื่อที่จะขอรับอุปการะแมวตัวแรกสีส้ม เค้าตอบตกลง พรุ่งนี้ให้มารับลูกแมวไปได้เลย

พอวันรุ่งขึ้นผมก็เดินทางไปเอาแมว พอไปถึงที่หมาย ผมมองหาแมวสีส้มของผมทันทีแต่ผมหาไม่เจอ ก็เลยหันไปถามพี่เจ้าของบ้าน แต่พี่เจ้าของบ้านบอกว่ามีคนมาเอาไปแล้วเมื่อคืน

(อ้าวพี่...ไหงงั้น) ผมกวาดสายตาดูรอบๆใหม่ ในบริเวณบ้านมีแมวใหญ่นอนอยู่ 2-3ตัว
มีตัวนึงเป็นเปอร์เซียตัวสีส้มขนยาวเฟื้อย (คาดว่าน่าจะเป็นแม่ของเจ้า3ตัวที่โพสไว้)

แต่แล้วสายตาผมก็ไปสะดุดอยู่ที่ลูกแมวตัวนึง มันผอมกะหร่องตัวแคระแกร็น
มีตุ่มขึ้นตามตัวคิดว่าน่าจะถูกยุงหรือมดกัด มีขนขึ้นเป็นหย่อมๆและมีลายวัวขาว-ดำ
(ใครเคยดูหนังเรื่องเดอะลอร์ดอ๊อฟเดอะริงส์ ให้นึกถึงตัวกอลั่มเอานะครับ)
กำลังเล่นขี้ดินอยู่ใต้เสาบ้านแน่นอนตัวนี้คือตัวสุดท้ายที่อยู่ในกระทู้ที่ผมค้นเจอเมื่อคืน
เจ้าของบ้านบอกว่า...

"ตัวสุดท้ายแล้ว ยังไม่มีใครเอาไปเลย สงสารมัน"

ผมจึงเดินไปมองหน้ามัน มันก็แหงนหน้ามองผม แล้วก็ร้อง เงี๊ยววว วินาทีนั้นผมจึงตัดสินใจหันไปบอกกับเจ้าของบ้านทันทีว่า "งั้นผมขอเอาไปเลี้ยงเองครับ" ... 


To Be Continued...




โฉมหน้ากอลั่ม...

V
V
V





.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.